Nov . 15, 2024 12:15 Back to list

แก้วรังสีต่ำ

กระจกที่มีค่าการส่งผ่านรังสีความร้อนต่ำ (Low Emissivity Glass หรือ Low-E Glass) เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในวงการก่อสร้าง โดยเฉพาะในงานตกแต่งและป้องกันความร้อนของอาคาร และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในการทำความเย็น


.

ประโยชน์ของกระจก Low-E 1. ประหยัดพลังงาน กระจก Low-E ช่วยลดการใช้พลังงานในระบบทำความเย็น โดยช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่อาคาร ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 2. ป้องกันรังสี UV รังสีอัลตราไวโอเลตเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งในบ้านเสื่อมสภาพ กระจก Low-E มีความสามารถในการบล็อกรังสี UV ได้ถึง 99% ทำให้ภายในอาคารมีความปลอดภัยมากขึ้น 3. เสียงลดลง กระจกชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติลดเสียงได้ดี ทำให้ช่วยสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบภายในอาคาร ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับผู้ที่อาศัยในเมืองที่มีเสียงดัง 4. การดูแลรักษาง่าย การเคลือบ Low-E ช่วยให้กระจกสะอาดอยู่เสมอ เพราะมีการสะสมของฝุ่นน้อยกว่ากระจกธรรมดา


low emissivity glass

low emissivity glass

การเลือกใช้กระจก Low-E ในการเลือกใช้กระจก Low-E ควรพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการ เช่น - ประเภทของการเคลือบ กระจก Low-E แบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น เคลือบชั้นเดียว หรือเคลือบหลายชั้น โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติการส่งผ่านแสงและความร้อนที่แตกต่างกัน - โครงการก่อสร้าง หากเป็นอาคารที่มีการเปิดรับแสงแดดมาก ควรเลือกกระจกที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนที่สูงขึ้น - งบประมาณ แม้ว่ากระจก Low-E จะมีราคาสูงกว่า แต่การประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจะช่วยคืนทุนในระยะยาว


สรุป กระจก Low-E เป็นนวัตกรรมที่ช่วยสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในอาคารที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ด้วยการป้องกันความร้อนและรังสี UV การเลือกใช้กระจกชนิดนี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในระยะยาว


ในยุคที่การอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาที่ยั่งยืนได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น การเลือกใช้กระจก Low-E จึงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสรรค์ที่ดีในงานออกแบบ แต่ยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย


Share